ถือเป็นยุคทองของ Sony กันเลยทีเดียวหลังเกมใหม่ Exclusive หลายตัวทำยอดขายและคะแนนรีวิวดีกันแบบต่อเนื่อง ทั้ง Horizon: Zero Dawn ที่ขายไป 7.6 ล้านชุดในปีเดียว ส่วน God of War ก็ดูจะเตรียมขึ้นหิ้งเกมขายดีระดับประวัติศาสตร์กันอีกเกม
อีกเกมเทพที่เตรียมจะออกวางจำหน่ายกันในเดือนหน้าก็คือ Detroit: Become Human แฟนเกมหลายคนต่างเฝ้ารอและฝากความหวังกันไว้กับเกมนี้ แต่ด้านนักวิเคราะห์ในวงการ “คาด” ว่าเกมนี้จะขายดีกันมากแค่ไหน ?
Michael Pachter นักวิเคราะห์ชื่อดังของ Wedbush Securities ให้สัมภาษณ์กับเว็บ Gamingbolt เอาไว้ แม้ว่าตัวเขาเองมองว่าตัวเกมจะทำยอดขายได้ค่อนข้างดีแต่ด้วยความที่แนวเกมค่อนข้างเป็นเกมเฉพาะกลุ่มไม่เหมือนกับเกมฮิตสองเกมก่อนหน้าอย่าง Horizon: Zero Dawn และ God of War ดังนั้นตัวเกมก็คงทำยอดได้น้อยตามลงไปด้วย
ผมรอคอยที่จะได้เล่น DETROIT: BECOME HUMAN ผมคิดว่า QUANTIC DREAM ทำเกมที่มืดมนและเล่าเรื่องราวที่กระตุ้นความคิดได้ดีเยี่ยม แต่ทางคิดอยากหนีจากชีวิตจริงไปพักผ่อนในเกม เกมของพวกเขานั้นไม่ค่อยจะเหมาะเท่าไหร่ ผมเป็นแฟนเกมของพวกเขาแต่ก็ไม่คิดว่าเกมพวกเขาจะประสบความสำเร็จระดับ 15 ล้านชุดหรือขายได้มากกว่า GOD OF WAR
ผมคิดว่าตัวเกมน่าจะขายได้ราว 3-4 ล้านชุด ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมมากๆแล้วสำหรับเกม EXCLUSIVE PLAYSTATION 4
หลังการวางจำหน่ายในวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา Detroit: Become Human กลายเป็นอีกเกม Exclusive ของเครื่อง Playstation 4 ที่ทำกระแสติด มีแฟนๆพูดถึงทั้งเนื้อเรื่องและตัวละครภายในเกมกันแบบมากมายทั้งในต่างประเทศและในไทยเอง
ทางสำนักวิเคราะห์ NPD ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าตัวเกม Detroit: Become Human น่าจะเป็นเกมที่ฮิตที่สุดของค่าย Quantic Dream และน่าจะขายดีกว่าเกมเก่าของทีมงานอย่าง Heavy Rain ถึง 20%
เกม Detroit Become Human ถือว่าเป็นกระแสหลักที่มาแรงถล่มทลายอย่างมากในช้วงนี้ โดยในอังกฤษนั้นยอดขายของเกม Detroit Become Human ได้แซงหน้าเกม God Of War และขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแล้ว ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะงานดีขนาดนั้น แต่ว่า!!!!! มีความจริงอย่างหนึ่งที่หน้าแปลกใจมาก แม้ว่ายอดขายจะเป็นอันดับหนึ่ง แต่ยอดขายเปิดตัวก็ยังน้อยกว่าเกม Beyond Two Souls และ Heavy Rain
เกมจาก Quantic Dream ผู้พัฒนาเดียวกัน โดยยอดขายเปิดตัวได้น้อยกว่าเกม Beyond Two Souls ที่ยอดขายเปิดตัวไม่สูงเท่าไหร่นัก และน้อยกว่ายอดขายเปิดตัวของ Heavy Rain อย่างมาก เพราะว่าขายได้แค่ 1 ใน 4 หรือ 25% ของยอดขายเปิดตัวของเกม Heavy Rain ในปี 2010 เท่านั้นเอง เป็นอะไรที่น่าตกใจอย่างมาก ทั้งที่งานออกมาดีขนาดนี้ เป็นที่ถกเถียงกันว่าทำไมเป็นแบบนั้น ไม่รู้ว่าจะเป็นปัญหาที่คนชอบที่จะดูมากกว่าซื้อมาเล่นเกมมั้ย
หรือว่าเกมแนวนี้จะเฟ้อ เพราะในช่วงหหลายปีที่ผ่านมามีเกมแนวเนื้อเรื่องที่ให้เราเลือกเนื้อเรื่องของเราเองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างเช่น Until Dawn ,Life is Strange หรือ The Walking Dead
หากจะเทียบกันในลักษณะของภาพยนตร์ ถ้าเกม God of War ที่วางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้เปรียบได้กับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุ่มทุนมหาศาลมีฉากอลังการตื่นตาตื่นใจแทบจะตลอดเวลาจนไม่อยากลุกไปเข้าห้องน้ำ เกม Detroit: Become Human นั้นก็จะเสมือน series ชุดที่แม้จะไม่ได้ใช้ทุนสร้างสูงเท่าแต่ก็มีความดึงดูดสามารถตรึงผู้เล่นให้ติดหนึบกับจอได้เหมือนกัน โดยในส่วนของไคลแมกซ์ท้ายเกมจะยิ่งทำให้คุณอยากเล่นต่อให้จบไปเลยแม้ว่าวันรุ่งขึ้นคุณต้องตื่นแต่เช้าไปทำงานก็ตามที
เกมเพลย์
สำหรับระบบการเล่นต่างๆ ของ Detroit: Become Human นั้นยังคงเป็นมาตรฐานเดิมคล้ายกับเกมก่อนหน้านี้ของ Quantic Dream นั่นคือเราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ ในฉากได้อย่างจำกัดและไม่สามารถจะทำอะไรได้อิสระมากนัก จุดที่จะมีให้เราสำรวจหรือสิ่งที่มีให้เราได้นั้นจะกำหนดเอาไว้ตายตัวเพื่อให้เราไปอ่าน หรือไปทำอะไรบางอย่างที่อาจจะส่งผลต่อตัวเลือกต่อไปของเรา แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเอื่อยเฉื่อยและเดินทอดน่องได้เพราะแทบทุกฉากจะถูกจำกัดด้วยเวลาผู้เล่นจึงต้องคิดเร็วทำเร็วและตัดสินใจว่าจะเลือกสำรวจอะไร หรือจะคลี่คลายสถานการณ์ไปในทางไหน
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกมแนว interactive ของ Quantic Dream แตกต่างจากเกมแนวเดียวกันของสตูดิโออื่นๆ ก็คงไม่พ้นคุณภาพกราฟิกนี่เอง ถ้าเทียบกับเกมอย่าง The Walking Dead ของ telltale games ที่ใช้ภาพกราฟิกแบบเซลเฉดจึงได้คุณภาพออกแนวการ์ตูนมาโดยตลอดทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังรับชมการ์ตูนที่มีเนื้อหาสุดแสนดราม่า เกมของ Quantic Dream ก็ได้พยายามนำเสนอด้วยคุณภาพกราฟิกแบบสมจริงมาโดยตลอดจึงทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนกำลังรับชม series คนแสดงอย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นสีสันสดใสและความล้ำหน้าของดีทรอยต์ในอนาคตปี 2038 หรือความเสื่อมโทรมและหดหู่ของชุมชนที่ไร้ทางไป ไร้อนาคต เมื่อผนวกด้วยกราฟิกที่สวยงามของเกมก็ทำให้ผู้เล่นสามารถดำดิ่งลงสู่โลกของ Detroit: Become Human ได้ไม่ยากเย็น
เสียงพากย์และเพลงประกอบ
นี่คืออีกองค์ประกอบหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกมนี้โดดเด่นขึ้นมา นักแสดงแทบทุกคนมีการแสดงสีหน้าท่าทางประกอบกับเสียงพากย์ที่ดูเป็นธรรมชาติและไม่ดูติดขัด ไม่ว่าจะ Connor ที่แรกเริ่มดูเย็นชาไร้อารมณ์สมเป็นแอนดรอยด์แต่เมื่อเกิดสงสัยในตัวเองก็เริ่มมีการแสดงสีหน้าท่าทางที่เกินกว่าเครื่องจักร Markus ที่น้ำเสียงแสดงออกถึงความห่วงใยต่อบุคคลที่ตนให้ความดูแล หรือ Kara ที่มีน้ำเสียงและท่าทีอ่อนโยนประหนึ่งคนเป็นแม่ต่อ Alice นั้น ทุกอย่างทำให้เกมมีชีวิตชีวาไม่ดูแห้งแล้งไร้จิตวิญญาณตามธรรมชาติที่ควรจะเป็นของแอนดรอยด์อย่างพวกเขาเลย
เพลงประกอบก็แต่งออกมาได้เข้ากับตัวเกมรวมถึงบุคลิกลักษณะของตัวละครด้วย หากคุณเปิดฟังเพลงประจำตัวของ Connor คุณจะสัมผัสได้ถึงอนาคตที่น่าหลงใหลและลึกลับและให้ความรู้สึกของเครื่องจักรที่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างไร้คำถาม แต่เมื่อเป็นเพลงประจำตัวของ Markus คุณจะสัมผัสได้ถึงความเร่าร้อน ความมุ่งมั่นที่จะต้องการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และเพลงประจำตัวของ Kara จะดำเนินไปอย่างเนิบช้าด้วยดนตรีรื่นหู ให้ความรู้สึกถึงความอบอุ่นและความอ่อนโยนของครอบครัว
สรุป
Detroit: Become Human ถือเป็นอีกหนึ่งงานชิ้นเอกจาก Quantic Dream ด้วยเนื้อหาที่จะตรึงคุณให้อยากเล่นต่อไปเรื่อยๆ และด้วยการนำเสนอที่ทำได้ลื่นไหลสอดคล้องกันทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกราฟิก เพลงประกอบหรือเสียงพากย์ หากคุณต้องการเกมแนว interactive ที่ให้คุณเลือกเส้นทางดำเนินเรื่องได้ด้วยตัวเอง เกมนี้จะเป็นเกมของคุณ